ผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์ตอไม้ รากไม้

ผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์ตอไม้ รากไม้

                ประวัติความเป็นมาของการทาเฟอร์นิเจอร์รากไม้ บ้านตะเปียงคล็อง หมู่ 7 ต.จรัส อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ สืบเนื่องมาจากคนกลุ่มหนึ่งในชุมชน มองเห็นความสาคัญของตอไม้รากไม้ ที่หลงเหลือจากการสัปทานตัดไม้ของภาครัฐบาล รวมทั้งซากไม้ที่ล้มตายโดยธรรมชาติ และขีดขวางการใช้ประโยชน์ในการใช้ที่ดินของเกษตรกรในท้องถิ่น น่าจะทาประโยชน์ และสร้างรายได้ให้กับชุมชน ต่อมาเมื่อพ.ศ.2548 ได้งบประมาณจากโครงการ SML วงเงิน 100,000 บาท จัดตั้งกลุ่มโดยมีสมาชิก 36 ครัวเรือน ผลิตภัณฑ์ยังมีรูปทรงที่แตกต่างและโดดเด่นหลากหลายรูปแบบเฉพาะตัวกว่าที่ไหนๆ เช่น ชุดกาแฟ ชุดอาหาร ชุดรับแขก ชิงช้า โต๊ะทางาน เป็นต้น และยังมีการพัฒนารูปแบบใหม่ๆ เช่นการแกะลวดลายต่างๆมีทั้งงานในสนามและในบ้าน จึงทาให้ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มเป็นที่นิยม และความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้นอย่างเป็นลาดับ

ความสัมพันธ์กับชุมชน

ฝีมือแรงงาน คือคนในชุมชนอย่างแท้จริง ถ่ายทอดรุ่นสู่รุ่นจึงทาให้คนในชุมชน มีความผูกพันกันเหมือนญาติพี่น้อง มีการรวมกลุ่ม และถ่ายทอดองค์ความรู้ให้สมาชิกได้รับความรู้ความเข้าใจ และพัฒนาฝีมือของตัวเองให้ดียิ่งๆขึ้น นอกจากนั้น ทาให้สมาชิกกลุ่ม และชุมชนมีงานทา และมีรายได้เพิ่มจากการทานา โดยแรกๆได้เงินทุนภาครัฐบาลจากงบประมาณของโครงการ sml 100,000 บาท จัดตั้งกลุ่ม และซื้อวัตถุดิบ อุปกรณ์ ในปี พ.ศ. 2548 อีกทั้งทางกลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้ช่วยเหลือสังคม และชุมชนในงานสาคัญๆอีกมากมาย อาทิ เช่น งานวันตารวจไทย งานวันเด็ก งานวันผู้สูงอายุเป็นต้น

กระบวนการผลิต

วัตถุดิบและส่วนประกอบ

1.ตอไม้ที่แปรรูปเป็นแผ่นเรียบร้อย
2.ขาโต๊ะที่ได้จากการแปรรูปจากตอไม้
3.รากไม้ตามขนาดตามความเหมาะสมกับชิ้นงาน
4.ทินเนอร์
5.ตะปู
6.กาวร้อน
7.กระดาษทราย เบอร์ 40,120,400,1000
8.ยูรีเทน
9.เหล็กส่งตะปู
10.เลื่อยโซ่
11.วงเดือน
12.เลื่อยลันดา
13.สว่าน
14.เครื่องเจียรใหญ่และเล็ก
15.กบไฟฟ้า
16.ฆ้อน
17.แปรงลวด
18.ปรอดวัดระดับน้า
19.แผ่นขีดไม้

ขั้นตอนการผลิต

นาตอไม้ที่แปรรูปเป็นแผ่นเรียบร้อยแล้วนามาจัดดัด เลือกชุดหรือจับคู่กัน เช่นแผ่นโต๊ะกลางเหมาะสมกับแผ่นเก้าอี้ขนาดเล็ก ใหญ่เหมาะสมกันแต่ละชุดหรือไม่ แล้วเตรียมขาโต๊ะกลางที่ได้แปรรูปจากตอไม้ เพื่อประกอบเป็นโต๊ะ ส่วนรากไม้ที่ใช้คัดเลือกให้ได้ตามขนาดความเหมาะสมกับแผ่นเก้าอี้ พร้อมกับใช้ทาขาเก้าอี้และใช้กับพนักพิงของเก้าอี้โดยเริ่มจากการตัดแต่ง และขัดทาความสะอาดอย่างละเอียดก่อนประกอบ โดยใช้กระดาทราย เบอร์ 40,120,400 ตามละเอียด พอขัดเรียบร้อยก็ทาการประกอบ เริ่มจากการประกอบส่วนขาก่อน ประกอบพนักพิงตามลาดับ ในการตอกยึดใช้ตะปู หรือสกรูแล้วขัดออกให้เรียบ แล้วนาฝ่นของไม้แต่ละชนิดอุดรอยตะปู หลังจากนั้นก็ใช้กระดาษทรายเบอร์ 120 และ400 มาขัดด้วยมือ เพื่อความละเอียดและเรียบร้อยมากขึ้น แล้วจึงนามาทาสีหรือพ่น หลังจากทาสีหรือพ่นรอบที่ 1ต้องทิ้งสีให้แห้งสนิทก่อน อย่างน้อย 6 ชั่วโมง ก่อนทาสีหรือพ่น ครั้งที่ 2-3-4 ต่อไป ในแต่ละครั้งก่อนการทาสีต้องขัดด้วยกระดาษทราย เบอร์ 400,1,000 ทุกครั้งในแต่ละรอบ แล้วตรวจสอบสินค้า แต่ละชิ้น และแต่ละชุดว่าเรียบร้อยดี แล้ว จึงนาออกมาจาหน่ายให้ผู้บริโภคต่อไป

เทคนิค/เคล็ดลับในการผลิต

เกิดจากความคิดความสร้างสรรค์ จินตนาการของแต่ละบุคคล ช่างผู้ผลิตจะต้องใช้ความคิดและจินตนาการตลอดเวลาในการทางาน ช่างผู้ผลิตจึงสามารถสร้างผลงานได้ดี อยู่ที่การรู้จักออกแบบตามรูปทรงของวัตถุดิบที่ได้มาว่ารูปแบบใดดีและไม่ดีของงานในแต่ละชุด และการขัดไม้ที่ละเอียดเมื่อชิ้นงานเสร็จแล้วผลิตภัณฑ์ที่ออกมาจึงสวยงามและโดดเด่นเป็นพิเศษ

ผู้ผลิต ผู้ประกอบการกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ

กลุ่มทำสิ่งประดิษฐ์จำกตอไม้บ้ำนตะเปียงคล็อง

ที่อยู่ - 7 - ตำบลจรัส อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ 32230

ประธานกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ

ที่อยู่ - - ตำบลจรัส อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ 32230

แหล่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์

มีจาหน่ายอยู่บ้านตะเปียงคล็อง หมู่ 7 ต.จรัส อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ และงานที่ทางราชการจัดขึ้นในจังหวัดสุรินทร์ เช่น งาน OTOP จังหวัดสุรินทร์ งานช้างจังหวัดสุรินทร์ฯ

น้ำตกไตรคีรี

น้ำตกไตรคีรี

      เป็นธารน้ำน้ำตก ที่ไหลลงมาจากเทือกเขาพนมดองเร็ก ระยะทางยาวประมาณ 8 ก.ม. มีจุดที่เป็นน้ำตกอยู่ด้วยกัน 3 แห่ง เรียกรวมกันว่า “ น้ำตกไตรคีรี”

สวนสตรอเบอร์รี่..

สวนสตรอเบอร์รี่..

      เป็นสวนผสมผสานที่มีผลไม้มากมายหลายชนิด อาทิ เช่น มะม่วง แตงโม องุ่น และสตรอเบอร์รี่.. และที่สำคัญมันมีผลผลิตจริงๆ ที่สุรินทร์

สวนลำใย

สวนลำใย

   

     ที่แรก สวนลำไย.. จุดเริ่มต้นจากคุณลุงนิวัฒน์ พลเยี่ยม (อายุ 53 ปี) ที่รักในธรรมชาติ ปลูกพืชผักสวนครัว มะละกอ ขนุน จนกลายมาเป็นสวนลำไย โดยส่วนตัวชอบ.. ชอบทัศนคติของคุณลุงที่ในเมื่อคิดแล้วจงลงมือทำ และทำให้ดีที่สุด คุณลุงดูแลต้นลำไยตั้งแต่รากจนถึงใบ ด้วยความรัก..

แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ อ.บัวเชด จ.สุรินทร์

วัดเขาศาลาอตุลฐานจาโร

    

        ตำบลจรัส อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ โดยมีหลวงพ่อเยื้อน ขันติพโล เป็นเจ้าอาวาสวัด ตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีป่าและภูเขาล้อมรอบ มีเนื้อที่ครอบคลุม ประมาณ 10,865 ไร่ ซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์ไม้ และสมุนไพรหายาก รวมทั้งสัตว์ป่านานาชนิด จัดได้ว่าอุดมสมบูรณ์มากที่สุดในอิสานใต้ของประเทศไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำลำธาร มีทัศนียภาพที่งดงาม สภาพแวดล้อมเงียบสงบร่มเย็น เหมาะกับการศึกษาปฏิบัติธรรม และท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่สำคัญยิ่ง

      

          พุทธอุทยาน วัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโร ตำบลจรัส อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ ตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีป่าและภูเขาล้อมรอบ มีเนื้อที่  ครอบคลุม ประมาณ 10,865 ไร่ ซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์ไม้ และสมุนไพรหายาก รวมทั้งสัตว์ป่านานาชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำลำธาร มีทัศนียภาพที่งดงาม สภาพแวดล้อมเงียบสงบร่มเย็น เหมาะกับการศึกษาปฏิบัติธรรม และท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่สำคัญยิ่ง ผืนป่าบางส่วนติดชายแดนไทย-กัมพูชา ถึงแม้ว่าจะมีร่องรอยการตัดไม้ทำลายป่าให้เห็นอยู่บ้าง แต่อย่างไรก็ตาม  ป่าทั้งผืนแห่งนี้ จัดได้ว่าอุดมสมบูรณ์มากที่สุดในอิสานใต้ของประเทศไทย

ในปี พ.ศ.2536 กรมป่าไม้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในสมัยนั้น (ปัจจุบัน กรมป่าไม้ อยู่ในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) ได้ประกาศบริเวณพื้นที่ป่าเป็นเขตพุทธอุทยาน ให้ดำเนินโครงการส่งเสริมพระพุทธศาสนา เพื่ออนุรักษ์ป่าไม้และพัฒนาสิ่งแวดล้อม ตามความคิดริเริ่มของพลเอกเชษฐา ฐานะจาโร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผบ.กกล.สุรนารี โดยมี เจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ทรงรับเป็นองค์อุปถัมภ์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

เนื่องในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ในปี พ.ศ.2539 คณะกรรมการวัดได้มีมติในการจัดสร้างพระอุโบสถเพื่อเป็นอนุสรณ์เนื่องในมหา มงคลวโรกาสครั้งนั้น ลักษณะพระอุโบสถเป็นทรงไทยประยุกต์ ขนาดกว้าง 30 เมตร ยาว 60 เมตร ผลจากพลังศรัทธาสามัคคี และความมานะพยายามของพระครูภาวนาวิทยาคม (เยื้อน ขนฺติพโล) เจ้าอาวาส ตลอดจนคณะสงฆ์ ศิษยานุศิษย์ และ พุทธศาสนิกชนทั่วไป ที่ได้ร่วมเสียสละกำลังกาย และทุนทรัพย์ อุปถัมภ์การก่อสร้างจนแล้วเสร็จ โดยไม่ใช้งบทางราชการแต่อย่างใด และได้รับพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ.2541 เพื่อให้เป็นการสมบูรณ์ตามแบบพระธรรมวินัย และทางวัดได้ทำพิธีผูกพัทธสีมาปิดทองฝังลูกนิมิต ในวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2547 โดยมี พลเอกเชษฐา ฐานะจาโร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในขณะนั้นมาเป็นประธานในพิธี

ในปี พ.ศ.2547 นอกเหนือจากมีพิธีผูกพัทธสีมาปิดทองฝังลูกนิมิตแล้ว ก่อนหน้านี้ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2547 สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้เลือกพุทธอุทยาน วัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโรแห่งนี้เป็นหนึ่งในวัดต่าง ๆ ที่เข้าร่วม โครงการปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของข้า ราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่สมัครใจมาปฏิบัติธรรม โดยไม่ถือเป็นวันลาตามมติคณะรัฐมนตรีในการพัฒนาบุคลากรโดยใช้หลักธรรมทางพระ พุทธศาสนา

      รอยพระพุทธบาทขอมโบราณ ตั้งอยู่ห่างจากศาลาวัดไปด้านตะวันออกเฉียงใต้ ประมาณ 300 เมตร เป็นรอยพระพุทธบาทหินทรายที่มีขนาดใหญ่มาก ความยาวประมาณ 3.2 เมตร ความกว้างด้านส้นพระบาทกว้างประมาณ 0.7 เมตร ด้านปลายพระบาท 1.5 เมตร องค์พระบาทถูกแกะสลักให้ลึกลงไป 0.2 เมตร เป็นรอยพระบาทข้างขวา ภายในรอยพระบาท มีเส้นขอบนูนเป็นกรอบสลักรูปสัตว์ในธรรมชาติ ได้แก่สัตว์ใหญ่ สัตว์เล็ก สัตว์ปีก นก ปลา สัตว์เลื้อยคลาน นานาชนิด รวมทั้งภาพดอกบัว มีภาพทั้งหมดนับรวมได้จำนวนมาก  แบ่งออกเป็น 23 แถวนับจำนวนได้ 166 ภาพ จากลักษณะดังกล่าว ช่างศิลป์อาจต้องการสะท้อนสภาพแวดล้อมอันอุดมสมบูรณ์ของป่าเทือกเขาพนมดองเร็ก เป็นถิ่นอาศัยที่อุดมสมบูรณ์