วัดเขาศาลาอตุลฐานจาโร
ตำบลจรัส อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์
โดยมีหลวงพ่อเยื้อน ขันติพโล เป็นเจ้าอาวาสวัด ตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีป่าและภูเขาล้อมรอบ
มีเนื้อที่ครอบคลุม ประมาณ 10,865 ไร่
ซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์ไม้ และสมุนไพรหายาก รวมทั้งสัตว์ป่านานาชนิด
จัดได้ว่าอุดมสมบูรณ์มากที่สุดในอิสานใต้ของประเทศไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำลำธาร
มีทัศนียภาพที่งดงาม สภาพแวดล้อมเงียบสงบร่มเย็น เหมาะกับการศึกษาปฏิบัติธรรม
และท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่สำคัญยิ่ง
พุทธอุทยาน วัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโร ตำบลจรัส
อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ ตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีป่าและภูเขาล้อมรอบ
มีเนื้อที่ ครอบคลุม ประมาณ 10,865
ไร่ ซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์ไม้ และสมุนไพรหายาก
รวมทั้งสัตว์ป่านานาชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำลำธาร
มีทัศนียภาพที่งดงาม สภาพแวดล้อมเงียบสงบร่มเย็น เหมาะกับการศึกษาปฏิบัติธรรม
และท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่สำคัญยิ่ง ผืนป่าบางส่วนติดชายแดนไทย-กัมพูชา
ถึงแม้ว่าจะมีร่องรอยการตัดไม้ทำลายป่าให้เห็นอยู่บ้าง แต่อย่างไรก็ตาม ป่าทั้งผืนแห่งนี้
จัดได้ว่าอุดมสมบูรณ์มากที่สุดในอิสานใต้ของประเทศไทย
ในปี พ.ศ.2536 กรมป่าไม้
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในสมัยนั้น (ปัจจุบัน กรมป่าไม้
อยู่ในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม)
ได้ประกาศบริเวณพื้นที่ป่าเป็นเขตพุทธอุทยาน ให้ดำเนินโครงการส่งเสริมพระพุทธศาสนา
เพื่ออนุรักษ์ป่าไม้และพัฒนาสิ่งแวดล้อม ตามความคิดริเริ่มของพลเอกเชษฐา ฐานะจาโร
เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผบ.กกล.สุรนารี โดยมี เจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช
ทรงรับเป็นองค์อุปถัมภ์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
เนื่องในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ในปี พ.ศ.2539
คณะกรรมการวัดได้มีมติในการจัดสร้างพระอุโบสถเพื่อเป็นอนุสรณ์เนื่องในมหา
มงคลวโรกาสครั้งนั้น ลักษณะพระอุโบสถเป็นทรงไทยประยุกต์ ขนาดกว้าง 30 เมตร ยาว 60
เมตร ผลจากพลังศรัทธาสามัคคี และความมานะพยายามของพระครูภาวนาวิทยาคม (เยื้อน
ขนฺติพโล) เจ้าอาวาส ตลอดจนคณะสงฆ์ ศิษยานุศิษย์ และ พุทธศาสนิกชนทั่วไป
ที่ได้ร่วมเสียสละกำลังกาย และทุนทรัพย์ อุปถัมภ์การก่อสร้างจนแล้วเสร็จ
โดยไม่ใช้งบทางราชการแต่อย่างใด และได้รับพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานวิสุงคามสีมา
เมื่อ พ.ศ.2541 เพื่อให้เป็นการสมบูรณ์ตามแบบพระธรรมวินัย
และทางวัดได้ทำพิธีผูกพัทธสีมาปิดทองฝังลูกนิมิต ในวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2547
โดยมี พลเอกเชษฐา ฐานะจาโร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในขณะนั้นมาเป็นประธานในพิธี
ในปี พ.ศ.2547
นอกเหนือจากมีพิธีผูกพัทธสีมาปิดทองฝังลูกนิมิตแล้ว ก่อนหน้านี้ในวันที่ 24
กุมภาพันธ์ 2547 สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้เลือกพุทธอุทยาน
วัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโรแห่งนี้เป็นหนึ่งในวัดต่าง ๆ ที่เข้าร่วม
โครงการปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของข้า
ราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่สมัครใจมาปฏิบัติธรรม
โดยไม่ถือเป็นวันลาตามมติคณะรัฐมนตรีในการพัฒนาบุคลากรโดยใช้หลักธรรมทางพระ
พุทธศาสนา
รอยพระพุทธบาทขอมโบราณ
ตั้งอยู่ห่างจากศาลาวัดไปด้านตะวันออกเฉียงใต้ ประมาณ 300 เมตร
เป็นรอยพระพุทธบาทหินทรายที่มีขนาดใหญ่มาก ความยาวประมาณ 3.2 เมตร
ความกว้างด้านส้นพระบาทกว้างประมาณ 0.7 เมตร ด้านปลายพระบาท 1.5 เมตร
องค์พระบาทถูกแกะสลักให้ลึกลงไป 0.2 เมตร เป็นรอยพระบาทข้างขวา ภายในรอยพระบาท
มีเส้นขอบนูนเป็นกรอบสลักรูปสัตว์ในธรรมชาติ ได้แก่สัตว์ใหญ่ สัตว์เล็ก สัตว์ปีก
นก ปลา สัตว์เลื้อยคลาน นานาชนิด รวมทั้งภาพดอกบัว มีภาพทั้งหมดนับรวมได้จำนวนมาก แบ่งออกเป็น 23 แถวนับจำนวนได้ 166 ภาพ จากลักษณะดังกล่าว
ช่างศิลป์อาจต้องการสะท้อนสภาพแวดล้อมอันอุดมสมบูรณ์ของป่าเทือกเขาพนมดองเร็ก
เป็นถิ่นอาศัยที่อุดมสมบูรณ์
.jpg)


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น